นอกจากการรับส่งเสด็จในวาระต่างๆ
ดังได้กล่าวไว้ในตอนที่แล้ว
นักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวง พันตรีวิลาศ
โอสถานนท์
ยังได้เล่าถึงประสบการณ์เมื่อครั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้โดยเสด็จไปในกระบวนเสด็จพระราชดำเนินเลียบมณฑลปักษ์ใต้เมื่อ
พ.ศ. ๒๔๖๐ ว่า
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เวลานั้นผมอายุ ๑๔ ขวบ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสภูเก็ต
ท่านมีพระราชประสงค์จะเสด็จทางบก
วันหนึ่งผมได้รับคำสั่งว่า
ท่านเจ้าพระยารามราฆพท่านอยากพบผม
ผมก็ไปกันหลายคนนักเรียนมหาดเล็กทั้งนั้น
ท่านบอกว่าโปรดเกล้าฯ
ให้พวกผมตามเสด็จไปด้วยเพื่อจะได้พบพ่อของตัว
เพราะพ่อของคุณๆ นี่อยู่ตามรายทางที่จะเสด็จไป
เวลานั้นพ่อผม
[๑]
เป็นเจ้าเมืองภูเก็ต
สมัยที่ท่านเป็นเจ้าเมืองภูเก็ตผมก็ไม่มีโอกาสจะไป
เพราะไกลเหลือเกินไปทางบกก็ไปไม่ได้
รถไฟไปถึงชุมพรเท่านั้น
ถ้าจะไปต้องลงเรืออ้อมสิงคโปร์
พอเสด็จไปถึงชุมพร
นักเรียนมหาดเล็กที่ตามเสด็จไปตอนนั้นมีหลายท่าน
แต่ที่ยังเหลืออยู่เวลานี้
[๒]
ก็มี ๒ คนเท่านั้น คือท่าน ม.ล.ปิ่น
มาลากุล กับผม พวกเราดีใจกันใหญ่ อยู่ดีๆ
ก็ได้ตามเสด็จฯ ทั้งๆ ที่เป็นนักเรียนอยู่
ไม่ต้องเรียนหนังสือ เรามารู้ทีหลังว่า
ที่ท่านโปรดเกล้าฯ ให้เราตามเสด็จนั้น
เป็นนโยบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
คือให้ลูกไปเห็นพ่อที่เป็นเจ้าเมืองอยู่ตามรายทางที่เสด็จพระราชดำเนินไป
พ่อแม่ใครที่เห็นลูกได้ตามเสด็จก็ดีใจด้วยกันทุกคน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเสด็จโดยขบวนช้างจากชุมพร
ตัดไปทางตะวันตกไปลงที่ทับหลีเป็นสุดทาง
แล้วเรือพระที่นั่งก็อ้อมไปรับเสด็จจากทับหลีไปภูเก็ต
ผมจำได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระกรุณาแก่พวกเราที่ตามเสด็จอย่างที่สุดที่ผมจะคิดได้ด้วยสติกำลังของผม
คือเมื่อเราไปถึงทับหลี
เจ้าเมืองหุงข้าวให้พวกเรากิน
จะอย่างไรไม่ทราบ วันนั้นข้าวดิบเป็นเม็ดๆ
ม.จ.ดิศานุวัต
[๓]
บอกกับผมว่า ข้าวดิบอย่างนี้กินท้องขึ้นตาย
ผมก็ทูลท่านว่า กินปลาเถอะท่าน มีอย่างอื่นๆ
อีกเยอะ เราอย่ากินข้าว กินกับเปล่าๆก็ได้
ก็เป็นเรื่องหัวเราะสนุกกัน
พอเรากินข้าวเสร็จแล้ว เรานั่งคุยกันอยู่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จมา
ท่านรับสั่งถามท่านดิศานุวัตว่า กินข้าวเย็นหรือยัง?
ท่านดิศฯ ไม่กล้าจะกราบทูลอย่างไร ก็อึกอักว่า
รับพระราชทานแล้วพะย่ะค่ะ
ท่านหันมาถามพวกเราที่นั่งอยู่ว่า อิ่มหรือเปล่า?
พวกเราก็กราบทูลว่า ไม่อิ่มพะย่ะค่ะเพราะข้าวมันดิบ
ท่านกริ้วแปร๊ดขึ้นมาทันที
ซึ่งผมไม่เคยเห็นเลย เท่าที่เคยตามเสด็จมา
หรืออยู่ที่โรงเรียน
ไม่เคยเห็นท่านกริ้วอย่างนั้นเลย
ทรงพระพิโรธอย่างรุนแรง รับสั่งว่า อะไรฉันมาด้วยยังหุงข้าวให้ลูกน้องฉันกินไม่เข้าอีกหรือ?
เอาข้าวมาดูซิ ท่านจับดูข้าว จับยังไงๆ
มันก็แข็งเพราะมันดิบ ก็ยิ่งทรงพระพิโรธใหญ่
ก็มีคนคอยทัดทานเหมือนกัน
ที่จะคอนช่วยให้ข้าหลวงฯ ไม่ให้ถูกลงโทษ
ท่านรับสั่งว่า ข้าหลวงไม่ดูแลเลย
พาลูกเต้าเขามาอดข้าวอดปลา
เมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านเจ้าพระยารามราฆพ
ท่านกรุณามาก ท่านกราบทูลว่า การหุงข้าวนี่อาจจะดิบได้
เพราะเขาหุงด้วยกระทะ
ก็เป็นการอธิบายให้ท่านโกรธน้อยลง
อันนี้เป็นคุณงามความดี
และผมระลึกถึงท่านเจ้าคุณรามฯ
อยู่จนกระทั่งผมโตแล้ว
มาทำราชการร่วมกับท่านบางเวลา ก็รู้สึกว่า
นิสัยใจคอท่านดีจริงๆ
เป็นอันว่าเราไปถึงทับหลี
แล้วก็ไม่ได้กินข้าวเย็น ท่าน ม.ล.ปิ่น
ท่านรับประทานหรือเปล่า ผมไม่ได้ถามท่าน
แต่ก็คงไม่ได้รับประทานเหมือนกัน
เพราะข้าวมันดิบ |