"ประการที่หนึ่ง
ปับลิกสูกลนั้นเขาย่อมสอนให้รักขนบธรรมเนียมของโรงเรียนและของประเทศเป็นอันมาก
ขนบธรรมเนียมอย่างใดที่มีมาแต่เดิม
แม้จะคร่ำคร่าไม่มีประโยชน์ก็ตาม
ถ้าไม่เสียหายก็รักษาไว้
เพื่อให้นักเรียนภาคภูมิใจ
ให้นึกถึงความเจริญของโรงเรียนที่มีมาแล้วแต่ก่อน
เป็นโรงเรียนอีตันยังใส่หมวกสูงจนบัดนี้
ที่จริงหมวกสูงนั้นไม่เป็นของวิเศษอะไร
และใส่ก็ไม่สบาย
แต่ทำให้เตือนใจให้นักเรียนนึกถึงความรุ่งเรืองของโรงเรียนที่เป็นมาแล้ว
นี่เป็นตัวอย่างที่ขอยกมาให้เห็นแต่อย่างเดียวเท่านั้น
ผลนั้นเมื่อเด็กอังกฤษเติบโตขึ้นแล้วก็มีน้ำใจรักขนบธรรมเนียมของบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าเราสังเกตดูกิจการในประเทศอังกฤษ
เราจะเห็นว่าเขารักษาขนบธรรมเนียมของเขาอย่างเข้มงวดดียิ่ง
ถึงแม้ขนบธรรมเนียมนั้นจะไม่สู้เป็นประโยชน์ก็คงรักษาไว้
เช่นเป็นต้นว่า
ผู้พิพากษายังสวมผมขาวปลอมมาจนทุกวันนี้
ว่าที่จริงไม่มีประโยชน์อะไร
แต่ทำให้ระลึกถึงเกียรติคุณของผู้พิพากษาที่มีมาแต่เดิม
การที่อังกฤษรักขนบธรรมเนียมหรือ
Tradition
ไม่ได้ทำให้ประเทศอังกฤษล้าหลังประเทศอื่นในความเจริญเลย
สิ่งใดที่ควรเปลี่ยนแปลงก็เปลี่ยนแปลงไป
แต่สิ่งใดที่ยังดีอยู่ไม่เสียหายเขาก็คงรักษาไว้เพื่อนึกถึงความเจริญของประเทศที่มีมาแล้วในปางก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะคิดทำงานใดๆ
เพื่อมุ่งหาความเจริญในทางอนาคตก็จริง
แต่เขาก็ไม่ยอมหันหลังให้อดีตเสียเลย
ข้อนี้เองทำให้อังกฤษเปลี่ยนแปลงแบบแผนการปกครองได้อย่างเรียบร้อยราบคาบ
ไม่ต้องมีการจลาจลมากมายนัก
นั่นเป็นผลของการรักษาขนบธรรมเนียมอย่างหนึ่ง
ตัวอย่างในเร็วๆ นี้
คือประเทศอังกฤษได้มีคณะรัฐบาลกรรมกรซึ่งเป็นโสเชียลลิสต์แต่ก็หาได้มีการเปลี่ยนแปลงตูมตามกลับหน้ามือเป็นหลังมืออย่างใดไม่
เพราะกรรมกรก็เป็นชาวอังกฤษที่มีนิสสัยยังรักขนบธรรมเนียม
การเปลี่ยนแปลงจึงเป็นไปทีละนิดละหน่อยไม่มีใครรู้สึก
ข้อนี้ในประเทศสยามควรเอาอย่างแน่นอนทีเดียว
นึกถึงอนาคตว่าเราจะทำอย่างไรให้เจริญได้ก็ทำไป
แต่สิ่งที่ดีงามที่เป็นมาแล้วก็ไม่ควรจะทิ้งเสีย
ต้องนึกถึงบรรพบุรุษของเราที่ได้นำชาติของเรามาสู่ความเจริญนั้นด้วยระเบียบนี้ขอให้โรงเรียนนี้ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด
หลักที่สอง
ในโรงเรียนปับลิกสกูลของอังกฤษนั้น
มีการปกครองอย่างเข้มงวดมากเป็นลำดับชั้นกันไป
คือครู เด็กชั้นใหญ่ เด็กชั้นเล็ก
เขาปกครองกันเป็นลำดับ
และมีวินัยอย่างเคร่งครัด
ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่มีเสรีภาพและอะไรต่ออะไรภาพบริบูรณ์ทุกอย่าง
การปกครองในโรงเรียนนั้น
เราน่าจะนึกว่าเขามิปล่อยให้เด็กฟรี
ทำตามชอบใจหรือ เปล่าเลย
การปกครองของโรงเรียนอังกฤษมีวินัยเคร่งที่สุด
และให้เด็กปกครองกันเอง
เพื่อฝึกหัดให้รู้จักปกครองกันตามลำดับชั้น
ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่มีโรงเรียนที่ไหนที่อนุญาตให้เด็กชั้นใหญ่เฆี่ยนเด็กชั้นเล็ก
แต่นี่อังกฤษเขายอมให้ทำเช่นนั้น
เด็กเล็กต้องรับใช้เด็กใหญ่
และเด็กชั้นใหญ่ลงโทษเด็กเล็กได้ด้วย
ทั้งนี้เป็นการฝึกฝนให้คนเรารู้จักว่า
การปกครองตามลำดับชั้นผู้ใหญ่ผู้น้อยนั้นต้องมีไม่ว่าประเทศไหนหมด
และจะมีแบบการปกครองอย่างใดๆ ก็ตาม
การปกครองตามลำดับชั้นนั้นต้องมีอยู่เสมอ
ไม่มีย่อมปกครองกันไม่ได้
และประเทศก็ต่อจะตั้งอยู่ไม่ได้
ดังนี้อังกฤษจึงฝึกสอนเด็กแต่เล็กๆ
ให้รู้จักเคารพต่อผู้นำของตน
เมื่อโตขึ้นเป็นนักเรียนชั้นใหญ่แล้ว
ก็ให้รู้จักปกครองเด็กเล็กโดยยุตติธรรม
ให้รู้จักรับผิดชอบในการปกครอง
ด้วยเหตุนี้อังกฤษจึงมีการปกครองที่ดีเรียบร้อยอย่างยิ่ง
แม้เขาปกครองประเทศอื่นที่เป็นเมืองขึ้นของเขา
การปกครองก็เป็นที่เรียบร้อยเป็นยุตติธรรมแก่ประชาชนอย่างยิ่ง
เพราะคนที่ไปปกครองประเทศราชเหล่านั้น
มักเป็นนักเรียนที่ได้เรียนในปับลิกสกูลมาแล้วเป็นส่วนมาก
นี่เป็นของที่พวกเราควรระลึกไว้ว่า
ถ้าเราจะให้ประเทศสยามดีงามต่อไป
เราต้องฝึกหัดเด็กของเราให้รู้จักเคารพนับถือผู้หลักผู้ใหญ่และให้รู้จักรับผิดชอบที่จะปกครองผู้น้อยต่อไปโดยยุตติธรรม
ดังนี้การปกครองในประเทศสยามจึงจะได้ผลดีที่สุด
หลักที่สาม
ที่ปับลิกสกูลเขาใช้ก็คือ
เขาฝึกหัดให้นักเรียนมีน้ำใจเป็นนักกีฬาแท้ที่เรียกว่า
สปอร์ตสแมน
การฝึกหัดน้ำใจนั้นเป็นของสำคัญมาก
ยิ่งเราจะปกครองแบบเดโมคราซียิ่งสำคัญขึ้นอีก
ในที่นี้จะขอหยิบยกหลัก ๒ - ๓
อย่างที่ว่าน้ำใจเป็นนักกีฬานั้นคืออะไร
ประการที่หนึ่งนักกีฬาแท้จะเล่นเกมอะไรก็ตาม
ต้องเล่นให้ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของเกมนั้น
ไม่ใช้วิธีโกงเล็กโกงน้อยอย่างใดเลย
จึงจะสนุกจึงจะเป็นประโยชน์ ประการที่สอง
ถ้าเกมที่เล่นนั้นเล่นหลายคน
ต้องเล่นเพื่อความชะนะของฝ่ายของตน
ไม่ใช่เล่นเพื่อตัวตนเดียว
ไม่ใช่เพื่อแสดงความเก่งของตัวคนเดียว
ประการที่สาม
นักกีฬาแท้นั้นต้องรู้จักชะนะและรู้จักแพ้
ถ้าชะนะก็ต้องไม่อวดดีทำภูมิ์
ถ้าแพ้ก็ต้องไม่พยาบาทผู้ชะนะเป็นต้น
หลักสามอย่างนี้สำคัญมาก
ย่อมใช้เป็นประโยชน์ได้ในการเมืองด้วย
เมื่อเราจะปกครองแบบรัฐสภาแล้ว
ก็ต้องมีคณะการเมืองเป็นธรรมดา
เกมการเมืองก็ย่อมต้องมีกฎของเกมเหมือนกัน
ถ้าเราเล่นผิดกฎการเมืองก็ย่อมจะมีผลเสียหายได้มากทีเดียว
เพราะการปกครองแบบเดโมคราซีย่อมต้องมีการแพ้และชะนะ
ซึ่งถือเอาตามเสียงของหมู่มากว่าฝ่ายใดแพ้และชะนะ
เพราะคณะการเมืองย่อมมีความเห็นต่างๆ
กันเป็นธรรมดา
ตางฝ่ายก็ต้องมุ่งที่จะให้หมู่มากเห็นด้วยกับตน
และเลือกตนเข้าเป็นรัฐบาล
ฝ่ายไหนประชาชนส่วนมากเห็นด้วยฝ่ายนั้นก็เป็นผู้ชะนะ
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว
เมื่อเวลาจะพูดชักชวนให้ประชาชนลงความเห็นด้วยกับตนนั้น
ถ้าเราใช้วิธีโกงต่างๆ
เช่นติดสินบนหรือข่มขืนน้ำใจก็ต้องเรียกว่าเล่นผิดเกมการเมืองโดยแท้
ต้องพูดให้คนอื่นเห็นตามโดยโวหารและโดยขอบธรรมจึงจะถูกกฎของเกม
การปกครองแบบเดโมคราซีนั้น
ผู้ที่ชะนะแล้วได้เข้ามาปกครองบ้านเมือง
ก็ควรจะต้องนึกถึงน้ำใจของฝ่ายน้อยที่แพ้เหมือนกัน
ไม่ใช่ว่าเราชะนะแล้วก็จะหาวิธีกดขี่ข่มเหงผู้ที่เป็นฝ่ายแพ้ต่างๆ
นานาหาได้ไม่
ย่อมต้องมุ่งปกครองเพื่อประโยชน์ของคณะต่างๆ
ทั้งหมด ส่วนผู้ที่แพ้ก็เหมือนกัน
เมื่อแพ้แล้วก็ต้องยอมรับว่าตนแพ้ในความคิดในโวหาร
แพ้เพราะประชาชนส่วนมากไม่เห็นด้วย
เมื่อแพ้แล้วถ้าตั้งกองวิวาทเรื่อย
บอกว่าถึงแม้คะแนนโว้ตแพ้กำหมัดยังไม่แพ้เช่นนั้นแล้วความเรียบร้อยจะมีไม่ได้
คงได้เกิดตีกันหัวแตกเต็มไป
ฝ่ายผู้แพ้ควรต้องนึกว่า
คราวนี้เราแพ้แล้วต้องไม่ขัดขวางหรือขัดคอพวกที่ชะนะอย่างใดเลย
ต้องปล่อยให้เขาดำเนิรการตามความเห็นชอบของเขา
ต่อไปภายหน้าเราอาจเป็นฝ่ายที่ชะนะได้เหมือนกัน
น้ำใจที่เป็นนักกีฬาที่เป็นของสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
ก็คือว่าเราต้องเล่นสำหรับคณะเป็นส่วนรวม
แม้ในโรงเรียนเรานี้แบ่งออกเป็นคณะต่างๆ
เมื่อเล่นแข่งขันในระหว่างคณะ
เราก็เล่นสำหรับคณะของเราเพื่อให้คณะของเราชะนะ
แต่เมื่อโรงเรียนทั้งโรงเรียนไปเล่นเกมกับโรงเรียนอื่น
ไม่ว่าคณะใดก็ตามต้องร่วมใจกันเล่นเพื่อโรงเรียนอย่างเดียวเท่านั้น
เวลานั้นต้องลืมว่าเราเคยแบ่งเป็นคณะ
เคยแข่งขันกันมาในระหว่างคณะอย่างไรต้องลืมหมด
ต้องมุ่งเล่นเพื่อโรงเรียนอย่างเดียวเท่านั้น
สำหรับประเทศชาติความข้อนี้เป็นของสำคัญอย่างยิ่งเหมือนกัน
เพราะตามธรรมดาย่อมต้องมีคณะการเมืองคณะต่างๆ
ซึ่งมีความเห็นต่างๆ กัน
แต่เมื่อถึงคราวที่จะต้องนึกถึงประเทศแล้ว
ต่างคณะต้องต่างร่วมใจกันนึกถึงประโยชน์ของประเทศอย่างเดียวเป็นใหญ่
ต้องลืมความเห็นที่แตกต่างกันนั้นหมด
ถึงจะเคยน้อยอกน้อยใจกันมาอย่างไร
ต้องลืมหมด ต้องฝังเสียหมด
ต้องนึกถึงประโยชน์ของประเทศของตนเท่านั้น
จะนึกเห็นแก่ตัวไม่ได้
อย่างนี้จึงจะเรียกว่ามีใจเป็นนักกีฬาแท้
เป็นของจำเป็นที่จะต้องปลูกให้คนมีน้ำใจอย่างนั้น
จึงจะปกครองอย่างแบบเดโมคราซีได้ดี |