[
๑
]
คือ
เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม ในรัชกาลที่ ๔ )
พระชนนีในสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ
พระบรมราชชนนี พันปีหลวง
ซึ่งต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาพระอัฐิเป็น
สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา
[
๒
]
คือ
พระยาราชภักดี (โค สุจริตกุล)
ผู้เป็นน้องชายของสมเด็จพระปิยมาวดี
ศรีพัชรินทรมาตา
[
๓
]
พระราชวงศ์จักรี,
หน้า ๒๗๐ - ๒๗๑.
[
๔
]
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ใน ธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม
ว่า ธรรมเนียมแต่งงาน
เจ้านายในเมืองไทยนี้ไม่มี
เมื่อว่ากันตามความเห็นตรงๆ
อย่าว่าแต่พระเจ้าแผ่นดินเลย
ถึงเจ้าฟ้าพระองค์เจ้า
ก็ไม่ได้แต่งงานสักครั้งหนึ่งเลย
[
๕
]
พระสนมเอกในรัชกาลที่ ๕
เป็นธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร
บุนนาค) กับ ท่านผู้หญิงอิ่ม สุรวงศ์ไวยวัฒน์
รับราชการเป็นพระสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และทำหน้าที่เป็นผู้เบิกพระโอษฐ์พระราชโอรสและพระราชธิดาในรัชกาลที่
๕ ต่อมาได้รับพระราชทานสถาปนาเป็น "เจ้าคุณจอมมารดาแพ"
และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดสถาปนาเกียรติยศขึ้นเป็นเจ้าคุณชั้นพิเศษให้ออกนามว่า
"เจ้าคุณพระประยูรวงศ์"
[
๖
]
เป็นธิดาของ มหาอำมาตย์ตรี พระยาประภากรวงษ์ (ว่อง
บุนนาค) อดีตอัครราชทูตสยาม ณ กรุงวอชิงตัน
สหรัฐอเมริกา และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
[
๗
]
พระราชวงศ์จักรี, หน้า ๒๗๒.
[
๘
]
ต่อมาได้รับพระราชทานเฉลิมพระยศเป็น
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์
[
๙
]
คือ
พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์
และพระตำหนักมารีราชรัตบัลลังก์
ในพระราชวังสนามจันทร์
[
๑๐
]
พระราชวงศ์จักรี,
หน้า ๒๗๒.
[
๑๑
]
เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๗๒ - ๒๗๓.
[
๑๒
]
ประกาศสถาปนาพระวรราชชายาเธอ
พระอินทรศักดิศจี, ราชกิจจานุเบกษา ๓๙
(๑๒ มิถุนายน ๒๔๖๕), หน้า ๕๗ - ๕๘.
[
๑๓
]
ต่อมาได้ทรงรับสิริราชสมบัติต่อจากพระเจ้าเอดเวิร์ดที่
๘ (ดยุคออฟวินเซอร์) ที่ทรงสละราชสมบัติ
และได้เฉลิมพระปรมาภิไธยเป็นพระเจ้ายอร์ชที่ ๖
[
๑๔
]
ต่อมาได้ทรงรับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ
และทรงเป็นพระราชชนนีในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่
๒
[
๑๕
]
หอวชิราวุธานุสรณ์. จดหมายเหตุรายวัน
พระพุทธศักราช ๒๔๖๖ (สำเนาลายพระราชหัตถ์),
หน้า ๒๘.
[
๑๖
]
ประกาศสถาปนาพระวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ เปนพระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าลักษมีลาวัณ, ราชกิจจานุเบกษา
๓๘ (๘ กันยายน ๒๔๖๔), หน้า ๒๐๖ - ๒๐๗.
[
๑๗
]
ประกาศสถาปนาพระวรราชชายาเธอ
พระอินทรศักดิศจี, ราชกิจจานุเบกษา ๓๙
(๑๒ มิถุนายน ๒๔๖๕), หน้า ๕๗ - ๕๘.
[
๑๘
]
ต่อมาวันที่ ๑๕
กันยายน พ.ศ. ๒๔๖๘ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้ออกพระนามใหม่ว่า สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี
พระวรราชชายา
[
๑๙
]
ประกาศสถาปนาพระนางเจ้าสุวัทนา
พระวรราชเทวี, ราชกิจจานุเบกษา ๔๒ (๑๑
ตุลาคม ๒๔๖๘), หน้า ๑๙๒.