เมื่อท่านกรรมการอำนวยการโรงเรียนเรียกตัวไปพบ
พร้อมกับมอบหมายให้มาเขียนเรื่องราวนำเสนอผ่านหน้าเวบนี้
ท่านได้กำชับมาด้วยว่าให้ไปคิดชื่อคอลัมน์มาด้วย
นึกอยู่นานว่าจะตั้งชื่อคอลัมน์นี้ว่าอะไรดี
สุดท้ายนึกขึ้นได้ว่าเมื่อผมจบจากโรงเรียนไปปีแรก
ได้รับเลือกให้ร่วมเล่นละครพระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ
รัชกาลที่ ๖ เรื่อง ฉวยอำนาจ มี อาจือ วิจิตร คุณาวุฒิ
นักเรียนเก่าอาวุโส ผู้ได้ชื่อว่าเป็น เศรษฐีตุ๊กตาทอง
ของเมืองไทย
เพราะตั้งแต่ท่านทำภาพยนตร์มาท่านก็กวาดตุ๊กตาทองไว้คนเดียวกว่า
๓๐ ตัว เป็นผู้กำกับการแสดง
ละครเรื่องนี้มีผู้แสดงหลากหลายอายุ
ตั้งแต่นักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงอายุกว่า ๘๐ ปี
เรื่อยลงมาจนถึงรุ่นเพิ่งจบใหม่อายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี
เช่นผู้เขียนและเพื่อน ๆ ที่แสดงเป็นพลทหาร
สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่ใช่นักเรียนเก่าเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้อาจจะงงว่า
แล้วคนที่อายุต่างกันมากเช่นนี้สามารถมาร่วมงานกันได้อย่างไร?
เมื่อท่านติดตามอ่านคอลัมน์นี้ต่อ ๆ ไปก็คงจะได้คำตอบว่า
นักเรียนเก่าโรงเรียนนี้แม้อายุจะต่างกันเป็นสิบ ๆ ปี
แต่ก็สามารถคุยกันได้เป็นวัน ๆ โดยไม่มีอาการเคอะเขิน
ละครฉวยอำนาจนั้นได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ๙
บางขุนพรหมเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๗
ก่อน แล้วท่านนายกรัฐมนตรีสัญญา ธรรมศักดิ์
ได้ขอให้ไปแสดงออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ๓
ที่หนองแขมซึ่งเวลานั้นอยู่ไกลสุดกู่เลยทีเดียวอีกครั้ง
จบการแสดงออกอากาศทางโทรทัศน์ครั้งหลังแล้ว
สมาคมนักเรียนเก่าฯ
ได้จัดเลี้ยงขอบคุณที่โรงแรมราชศุภมิตรของนักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงประจวบ
บุรานนท์
ในวันเลี้ยงขอบคุณนั้น
ศาสตราจารย์สรรเสริญ ไกรจิตติ นายกสมาคมนักเรียนเก่าฯ
ในเวลานั้นได้กล่าวขอบคุณนักเรียนเก่ารุ่นปู่
รุ่นพ่อที่กรุณาสละเวลามาร่วมแสดงด้วยความจงรักภักดี
พลันคุณพระมหามนตรีศรีองครักษ์สมุห (ฉัตร โชติกเสถียร)
นักเรียนเก่าอาวุโสในวัย ๘๐ เศษ
ท่านชิงกล่าวขึ้นมาในทันทีว่า ไม่ใช่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ
หรือรุ่นลุง ต้องเรียกว่ารุ่นพี่ เพราะล้นเกล้าฯ
ทรงนับว่าพวกเราเป็นลูกของพระองค์
เราทุกคนจึงเป็นพี่น้องร่วมพ่อเดียวกัน
จากคำพูดของคุณพระมหามนตรีฯ
ครั้งนั้น
ประกอบกับคำสั่งเสียของบรรดานักเรียนเก่ามหาดเล็กหลวงเมื่อร่วม
ๆ ๔๐ ปีที่แล้ว ที่ท่านกล่าวกับผู้เขียนว่า
ตัวท่านเหล่านั้นนับวันก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่งที่นับวันจะร่วงโรงลงไป
คงต้องฝากความหวังไว้ที่ผู้เขียนให้ช่วยสืบทอดเรื่องราวต่อจากท่านเหล่านั้น
แล้วนำไปถ่ายทอดแก่น้อง ๆ สืบไป
เมื่อได้รับมอบหมายให้มาถ่ายทอดเรื่องเก่า ๆ
ผ่านหน้าเวบนี้ จึงขอขนานนามคอลัมน์นี้ว่า
ฝากเรื่องราวไว้กับน้อง ๆ
ในฐานะที่นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยทุกคนล้วนได้ชื่อว่า
เด็กในหลวง
ประจวบกับอีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพครบ ๖๐
พรรษาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
จึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะที่จะเริ่มฝากเรื่องราวไว้กับน้อง ๆ
ด้วยเรื่องเฉลิมพระเกียรติ ๖๐
พรรษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
พระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
สยามมกุฎราชกุมารของไทยเรานี้
เพิ่งจะเริ่มมีขึ้นในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อโปรดเกล้าฯ ให้เลิกตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคล
หรือ วังหน้า
ไปภายหลังจากที่กรมพระราชวังบวรวิไชยชาญเสด็จทิวงคต ใน
พ.ศ. ๒๔๒๘ ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๒๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
สถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ
พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
พระองค์แรก แต่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ หรือ
ทูลกระหม่อมใหญ่ พระองค์นี้ทรงดำรงพระชนมายุมาได้เพียง
๑๗ พรรษาเศษก็ทรงพระประชวรเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๔ มกราคม
พ.ศ. ๒๔๓๗ ถัดมาอีก ๒ สัปดาห์ก็ได้โปรดเกล้าฯ
สถาปนาพระราชโอรสพระองค์โต คือ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ
เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ กรมขุนเทพทวาราวดี
ขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่สอง
|