ร.ฟ.ล.
เป็นอักษรย่อนามกรมรถไฟหลวง
แต่เดิมมากรมรถไฟของสยามนั้นแยกการบริหารจัดการเป็นกรมรถไฟสายเหนือมีวิศวกรชาวเยอรมันเป็นผู้บริหาร
และกรมรถไฟสายใต้มีผู้บริหารเป็นวิศวกรชาวอังกฤษ
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริที่จะนำประเทศสยามเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่
๑ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้รวมกรมรถไฟสายเหนือและสายใต้เข้าด้วยกัน
พระราชทานนามกรมนี้ว่า กรมรถไฟหลวง
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายพลโท
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน
ทรงเป็นผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวงมาตั้งแต่วันที่ ๒๗
มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐
และเมื่อทรงประกาศสงครามกับเยอรมนีและออสเตรีย -
ฮังการี เมื่อวันที่ ๒๒
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ แล้ว ก็ได้ปรดเกล้าฯ
ให้นายทหารช่างในบังคับบัญชาของพระเจ้าน้องยาเธอ
กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธินดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ขุนตานและวางรางรถไฟสายเหนือจนแล้วเสร็จ
สามารถเปิดเดินรถไฟจากกรุงเทพฯ
ไปถึงเชียงใหม่ในวันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๔
ภาพนี้ทรงวาดลงในดุสิตสมิตเพื่อแสดงความยินดีในการที่นายพลโท
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน
ทรงอำนวยการให้นายทหารช่างของกองทัพบกสยามดำเนินการขุดเจาะอุโมงค์ขุนตาน
ต่อจากวิศวกรชาวเยอรมันที่ถูกควบคุมตัวไปคุมขังที่อินเดียเพราะเป็นชนชาติศัตรูและถูกเนรเทศ
เมื่อคราวสยามเข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ ๑
จนการขุดเจาะอุโมงค์บรรลุผลสำเร็จสมบูรณ์ในตอนปลาย
พ.ศ. ๒๔๖๑
ในภาพ นายพลโท พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน ผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง
ทรงเครื่องแบบปกตินายพลโททหารบก
ทรงพระมาลาแก๊ปสีกากีแกมเขียว
กระบังหน้าหุ้มผ้าสีกากีแกมเขียว
ติดตราปทุมอุณาโลมที่หน้าหมวก
สายรัดคางหนังเหลือง
ทรงฉลองพระองค์แบบราชการสีกากีแกมเขียวคอปิด
ติดดุมทองเกลี้ยงที่อกเสื้อ ๕ ดุม
มีกระเป๋าใบปกพร้อมดุมทองเกลี้ยงที่ปากกระเป๋า ๔
กระเป๋า ติดเครื่องหมายนายทหารพลรบประจำการรูปพระมหามงกุฎรัศมีเงินที่คอเสื้อ
พระสนับเพลาสีกากีแกมเขียว
ฉลองพระบาททรงสูงหนังเหลือง
ที่อกเสื้อเบื้องซ้ายเหนือกระเป๋าประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นที่
๔ อัศวิน หมายว่าทรงเป็น
มหาโยธิน
แห่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
โดยมีความชอบตามประกาศพระราชทานถานันดรเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี
เมื่อวันที่ ๒ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๔๖๑ ว่า
นายพลโท พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมขุนกำแพงเพ็ชร์อรรคโยธิน
ได้ทรงรับราชการทหารบกมาในตำแหน่งสำคัญต่างๆ
หลายตำแหน่ง
ในตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารบกที่ ๑
รักษาพระองค์และตำแหน่งแม่ทัพกองทัพน้อยทหารบกที่
๑
ได้ทรงจัดรเบียบการในกองพลและกองทัพน้อยให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นเปนอันมาก
มีพยานเห็นชัดที่กองพลนั้นและกองทัพน้อยนั้นพึ่งได้เริ่มออกทำการในสนามได้จริงในขณะที่ทรงบัญชาการอยู่
ในตำแหน่งจะเรการช่างทหารบกได้ทรงวางรเบียบการช่างทหารให้เปนหลักฐาน
เปนรากเง่าของการนี้
นับว่าทรงมีความชอบอย่างใหญ่หลวง
เข้าหลักตามความในพระราชบัญญัติมาตรา
๑๖ ตอนท้าย
ซึ่งว่าถึงผู้ซึ่งได้ปฏิบัติราชการเปนผลดียิ่งสำหรับความเจริญรุ่งเรืองแห่งกำลังทหารนั้น
อีกประการ ๑
เมื่อก่อนที่กรุงสยามจะประกาศสงครามแก่ประเทศเยร์มเนียเอ๊าสเตรียฮุงการีนั้น
ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมขุนกำแพงเพ็ชร์อรรคโยธิน
ไปรับราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง
รวมกรมรถไฟซึ่งมีอยู่เดิม ๒
กรมเข้าเปนกรมเดียว
ปลดบุคคลชาติราชศัตรูซึ่งมีจำนวนมากอยู่ออกจากราชการในกรมรถไฟได้ฉับพลัน
มิต้องหาชาวต่างประเทศอื่นเข้าแทนก่อน
ช่วยให้การประกาศสงครามนั้นกระทำไปได้โดยรวดเร็วทันพระราชประสงค์
และปลอดโปร่งปราศจากความเสียหายแก่ราชการแผ่นดิน
[๔] |
ภาพนี้นายพลโท พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมขุนกำแพงเพชรอัครโยธิน
ผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวง
ประทับนั่งมาเหนือหัวรถจักรไอน้ำของกรมรถไฟหลวงซึ่งกำลังดุนหลังนายทหารช่างให้เดินไปข้างหน้า
หมายว่า
ทรงบัญชาการให้ทหารช่างเป็นผู้จัดวางรางรถไฟสายเหนือและสายใต้ให้เป็นไปตามแผนงาน
|