"โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำรับเฉพาะนักเรียนกินนอนตั้งแต่แรกตั้ง
และมีพระราชประสงค์ให้ดำเนินการปกครองแบบพับลิคสกูลอังกฤษทุกประการ
และพระราชทานพระบรมราโชบายให้โรงเรียนถือเป็นหลักอบรมสั่งสอนนักเรียน
๓ ประการคือ:-
๑. สอนให้เป็นคนมีศาสนา
จะได้มีศีลธรรมเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งจิตใจ
๒. สอนให้เป็นผู้ดี
จะได้รู้จักการตรากตรำ ไม่สำรวยหยิบโหย่ง
จะได้ทำตัวให้เหมาะที่จะเป็นผู้รับใช้และใช้คน
ไม่ทำตนเป็นคนถือยศศักดิ์เหยียดหยามผู้อื่น
ต้องเป็นผู้กล้าหาญ มีระเบียบ
และมีความกตัญญูกตเวที
รักเกียรติชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตัว
รู้จักรักหมู่รักคณะ
กล้าเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
๓. อบรมให้มีสติปัญญาความรู้
จะได้ใช้ในการครองชีพต่อไป
พระราชประสงค์ของพระองค์ก็คือมิให้นักเรียนที่ได้รับการอบรมไปจากโรงเรียนนี้เป็นที่รังเกียจแก่สังคม
พระองค์ทรงปรารภว่า
ผู้ที่มีความรู้เลิศทางเดียวไม่มีสิ่งใดยึดเหนี่ยวแล้ว
อาจยังผลร้ายให้ประเทศชาติได้มากกว่าผู้ที่มีความรู้อ่อนแต่มีศีลธรรมดี.
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างโรงเรียนมหาดเล็กหลวงขึ้นแล้ว
ทรงพระราชดำริว่า
การที่โรงเรียนจะตั้งอยู่โดยลำพัง
ไม่มีการแข่งขันกันบ้างนั้น
จะทำให้ความเจริญก้าวหน้าช้าไป
สมัยนั้นมีโรงเรียนประจำอีกแห่งหนึ่งเรียกว่า
ราชวิทยาลัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างไว้ขึ้นอยู่กับกระทรวงยุติธรรม
โรงเรียนนี้ดำเนินการปกครองแบบพับลิคสกูลของอังกฤษเหมือนกัน
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้โอนจากกระทรวงนั้นมาอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์
และรับพระมหากรุณาของพระองค์ดังเช่นที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงทุกประการ
โรงเรียนทั้งสองนี้เป็นคู่แข่งขันกันในการกีฬาประเภทต่างๆ
ทั้งทางระเบียบวินัย
และการศึกษาตลอดจนสิ้นรัชกาลของพระองค์
ครั้นพระองค์เสด็จสวรรคตแล้ว
การเงินฝืดเคืองลง
โรงเรียนราชวิทยาลัยจึงต้องยุบ
และนักเรียนโรงเรียนนั้นมารวมเรียนที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงแห่งเดียว
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจาอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานนามโรงเรียนใหม่ว่า
วชิราวุธวิทยาลัย
เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวให้คงอยู่ชั่วกัลปาวสาน
และทรงสถาปนาโรงเรียนนี้ให้คงไว้ตามพระราชประสงค์แห่งพระองค์ผู้พระราชทานกำเนิด
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรับรัชทายาทเป็นพระราชาธิบดีสนองพระองค์แล้ว
ก็ทรงทำนุบำรุงและดำเนินกิจการของวชิราวุธวิทยาลัยตามพระบรมราโชบายของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชจนสุดรัชสมัยของพระองค์
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนิยมการปกครองแบบพับลิคสกูลของอังกฤษเหมือนกัน
และเพื่อส่งเสริมวิธีการระบอบนี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้จัดสร้างคณะเด็กเล็กขึ้นเพื่ออบรมจิตใจนักเรียนให้มั่นคงแน่วแน่เสียแต่เล็ก
เมื่อขึ้นมาคณะเด็กโตจะได้มีกำลังใจเข้มแข็งกล้าต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ
ได้
นอกจากนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างตึกพยาบาล
และอาคารถาวรขึ้นอีก
เพราะอาคารของวชิราวุธวิทยาลัยยังเป็นอาคารชั่วคราวอีกหลายหลัง
และพระราชทานนามหลังใหม่นี้ว่า
ตึกวชิรมงกุฎ
การดำเนินการอบรมเพื่อให้เกิดผลตามพระบรมราโชบายนั้น
นอกจากการสอนวิชาตามปกติแล้ว
โรงเรียนได้จัดให้มีการสวดมนต์ทุกเวลาเช้าและเวลากลางคืน
วันอาทิตย์มีการทำวัตรและสวดมนต์ตอนเช้า
เมื่อเสร็จแล้วก็อาราธนาพระภิกษุสงฆ์มาเทศน์สั่งสอนเป็นบางครั้ง
บางครั้งก็เชิญท่านผู้มีเกียรติมาให้โอวาทสลับกันไป
ให้นักเรียนมีจิตใจมั่นในศีลธรรม
ส่วนอีกด้านหนึ่งโรงเรียนจัดให้นักเรียนเล่นกีฬาทุกๆ
คนทุกเวลาบ่าย
กีฬาที่นักเรียนเล่นนั้นมีทั้งกีฬาพวก
และกีฬาสังคม
นอกจากนี้โรงเรียนยังหัดให้นักเรียนร้องเพลงสากลและเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ
อีกมาก
ผลของการอบรมตามพระบรมราโชบายนั้น
มีนักเรียนเก่าของโรงเรียนได้รับตำแหน่งสำคัญของประเทศเป็นอันมาก
เช่นเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน
เป็นองคมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี
เป็นรัฐมนตรีและอธิบดีกรมต่างๆ
เป็นจำนวนไม่น้อย"
|