"ถึงกรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร,
หม่อมเจ้าสิทธิพร, และหม่อมเจ้าเขจรจรัสฤทธิ์
จดหมายของเธอถึงฉัน ลงวันที่ ๙ กันยายน
แถลงเหตุที่เกิดขึ้น
เกี่ยวแก่กิจการของคณฟุตบอลแห่งสยาม
พร้อมด้วยสำเนาหนังสือต่างๆ
ที่เนื่องด้วยเรื่องนั้น
ฉันได้อ่านและพิจารณาดูตลอดแล้ว ขอตอบดังต่อไปนี้
๑. การที่กรรมการได้ประชุมกันและวินิจฉัยคดีนั้น
ตามรายงานประชุมฉันเห็นว่าได้ปฏิบัติการถูกต้องคามระเบียบทุกประการแล้ว
ไม่เห็นว่าเปนปัญหาอย่าง ๑ อย่างใดเลยทีเดียว.
๒.
ส่วนการที่กรรมการปฤกษาโทษผู้ผิดแลวางบทลงอาญาเพียงแต่เปนอย่างกลาง
คือเพียงแต่คัดออกจากการแข่งขันนั้น
ก็ได้วางลงไปต่อเมื่อได้ปฤกษาหาฤากันอย่างละเอียดลออแล้ว
และกรรมการเห็นว่าเปนการเหมาะที่สุดที่จะลงโทษเช่นนั้น.
ในส่วนตัวฉันเองไม่รู้สึกว่ามีข้อควรสงสัยเลยว่ากรรมการผู้แสดงความเห็นเช่นนั้นได้แสดงด้วยความจริงใจ
๓.
การที่สโมสรกระทรวงยุติธรรมได้ขอให้เล่นกันใหม่นั้น
ฉันเห็นว่าเปนการขอล่วงเลยเวลาเสียแล้ว
เพราะกรรมการสภาได้วินิจฉัยเด็ดฃาดลงไปแล้ว
และได้มีจดหมายถึงผู้ต้องคดีบอกคำวินิจฉัยไปเสียแล้ว
และฝ่ายจำเลยก็ไม่ได้ขออุทธรณ
เพราะฉนั้นจะถอนคำวินิจฉัยนั้นอย่างไร?
๔.
การที่จะให้สโมสรมหาดเล็กกับสโมสรยุติธรรมเล่นกันใหม่ตามคำขอร้องของสโมสรยุติธรรมนั้น
ถ้าแม้เปนเวลาก่อนที่กรรมการสภาได้บอกคำวินิจฉัยไปยังคู่ความแล้ว
ก็จะเปนทางที่ตัดเหตุอย่างงดงามที่สุด
แต่เมื่อกรรมการสภาได้วินิจฉัยเด็ดขาดเสียแล้วเช่นนี้
ถ้าหากว่าจะกลับให้ ๒ สโมสรนั้นเล่นกันใหม่อีก
ดูจะเปนการไม่เหมาะอยู่
เพราะอาจที่จะมีผู้เฃ้าใจผิดคิดเห็นไปต่างๆ
ดังต่อไปนี้ คือ :-
(ก) ว่ากรรมการสภาตัดสินเด็ดฃาดไปแล้ว
ต้องคืนคำเพราะฉันยื่นมือเฃ้าไปวุ่น,หรือ
(ข) ว่ากรรมการสภาตัดสินเด็ดฃาดไปแล้ว
ต้องคืนคำเพราะประจบสโมสรมหาดเล็ก,
ซึ่งถ้าเฃากล่าวเช่นนี้ก็กระเทือนถึงตัวฉันอีกเหมือนกัน
ในรายงานการประชุมก็มีข้อความปรากฏชัดอยู่ว่า
กรรมการได้ "คิดโดยรอบคอบ
เห็นควรนึกถึงชื่อเสียงของคณฟุตบอลแห่งสยาม
ถ้าจะให้เล่นกันใหม่ก็จะเปนเยี่ยงอย่าง
สำหรับภายหน้า ทั้งยังไม่เชื่อว่าเปนยุติธรรมด้วย
และจะให้คนติเตียนว่าเห็นแก่สโมสรที่เกี่ยวข้องแก่กรรมการบางท่าน
อาจทำให้เสียชื่อเสียงในปีแรกในการที่ตั้งคณนี้
เมื่อเสื่อมเสียลงแล้วเช่นนี้เปนของยากที่จะกลับให้มีผู้นิยมเชื่อถือภายหลัง
เมื่อเช่นนี้แล้วก็ไม่สมพระราชประสงค์
เพราะฉนั้นตามที่ตัดสินให้คัดออกจากการแข่งขันนั้น
ไม่ต้องสงสัยผู้ที่ฝักใฝ่ในการเล่นฟุตบอลคงนิยมชมชอบและเชื่อถือในความยุติธรรมของคณฟุตบอลแห่งสยามต่อไป
ฉันเห็นว่า
เหตุการณที่ได้บังเกิดต่อมาเนื่องจากการที่กรรมการสภาได้วินิจฉัยเช่นนั้น
ไม่เห็นมีอะไรที่จะลบล้างสถิติเดิมที่กรรมการได้แสดงมา
ตามที่ได้คัดมาไว้ฃ้างบนนี้เลย
เปนแต่สโมสรบางสโมสรไม่พอใจในคำวินิจฉัย
ไม่เปนพยานอย่าง ๑ อย่างใดเลย
ว่าผู้ที่ฝักใฝ่ในการเล่นฟุตบอลทั่วไปจะเห็นตามนั้นด้วย.
เพราะฉนั้นถ้าจะกลับพลิกคำวินิจฉัยของตนเอง
และยอมให้เล่นกันใหม่
จะพ้นจากทางที่อาจทำให้คนติเตียนว่าเห็นแก่สโมสรที่เกี่ยวข้องแก่กรรมการบางท่านฉนั้นได้แลฤา?
ตรงกันข้ามฉันเชื่อว่าจะยิ่งถูกติมากขึ้นเสียอีก.
พูดตรงๆ อาจจะถูกติว่าประจบ
ตามที่ได้ว่ามาแล้วฃ้างบนนี้, และตัวฉันเองก็อาจ
จะพลอยถูกติว่าใช้อำนาจหรือ influence
เพื่อบังคับหรือบันดาลให้กรรมการพลิกคำวินิจฉัยซึ่งได้วางลงไปแล้วด้วยความเชื่อมั่นในความเปนธรรมและในประโยชน์แห่งคณฟุตบอลสยาม
๕. ข้อที่ว่า
การที่สโมสรหลายสโมสรลาออกคงจะทำให้คณฟุตบอลแห่งสยามล้มนั้น
ฉันยังเล็งไม่เห็น
เพราะสโมสรที่ลาออกก็เปนแต่พวกที่เกี่ยวข้องแก่กรมมหาดเล็กเท่านั้น
สโมสรกระทรวงและกรมอื่นๆ
กับสโมสรเชลยศักดิ์ก็ยังคงอยู่อีกเปนหลายราย.
จะให้ฉันเฃ้าใจหรือว่าคณฟุตบอลแห่งสยามจะตั้งอยู่ได้แต่โดยอาศรัยสโมสรมหาดเล็กและพรรคพวกเท่านั้น?
คงจะไม่เปนเช่นนั้นเปนแน่.
แต่ถ้าเธอเห็นว่า
การที่สโมสรมหาดเล็กและพรรคพวกลาออกจะถึงแก่ทำให้คณฟุตบอลแห่งสยามล้มฉนี้
ทำไมจึ่งมิได้คิดคาดคะเนเสียก่อนที่วินิจฉัย
ว่าคำวินิจฉัยอาจให้ผลร้ายแรงถึงปานนั้น
๖.
การที่จะขอให้ฉันจัดการให้สโมสรที่ลาออกแล้วนั้นถอนใบลา
ฉันยังเล็งไม่เห็นว่าฉันจะทำอย่างไรได้
เพราะการลาออกเปนอำนาจอันชอบธรรมที่เฃาอาจจะใช้ได้แม้โดยไม่ต้องมีสาเหตุอะไรเลย
และไม่เกี่ยวแก่น่าที่ของเฃาทางราชการด้วย
เพราะฉนั้นฉันรู้สึกว่า ถ้าฉันไปบอกให้เฃาถอนใบลา
ก็ดูเปนใช้อำนาจบังคับนอกทางราชการแท้ทีเดียว
ฉันเห็นควรที่กรรมการสภาจะจัดการพูดจาว่ากล่าวกับสโมสรนั้นๆ
เอง จะเหมาะกว่า
๗.
การที่ขอให้ฉันตั้งกรรมการใหม่แทนตัวเธอทั้งสามนั้น
ถ้าเธอไตร่ตรองดูอีกครั้ง ๑ แล้วก็คงจะเห็นใจฉัน
ว่าฉันทำไม่ได้ทีเดียว เพราะถ้าฉันทำเช่นนั้น
คนทั้งหลายที่คอยหาเรื่องนินทาฉันอยู่แล้วจะว่ากระไร?
คงว่าฉันคัดเอาเธอออกเพราะเธอ
"บังอาจตัดสินให้เปนที่ไม่พอใจแก่สโมสรมหาดเล็ก",
ซึ่งจะเปนทางให้ติเตียนฉันได้ถนัดทีเดียว
ว่าแม้ในการกีฬาก็ไม่รู้จักที่จะเล่นโดยตรงไปตรงมาอย่างนักเลง,
ใช้อำนาจโดยฉันทาคติเพื่อประโยชน์แห่งสโมสรมหาดเล็ก.
ด้วยความรู้สึกแน่ในใจเช่นนี้
ฉันจึ่งมีความเสียใจที่จะทำตามเธอขอนั้นไม่ได้เปนอันขาด
ขออย่าให้ฉันต้องตกอยู่ในที่ถูกนินทาโดยใช่เหตุเช่นนั้นเลย
ในที่สุดนี้ฉันขอบอกว่า
ในส่วนตัวฉันถึงสโมสรมหาดเล็กจะถูกลงโทษอย่างใดๆ
ฉันไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น
และฉันไม่ได้คิดอย่างอื่นนอกจากว่า
เมื่อใครชนะฉันก็ให้ถ้วยด้วยความยินดีเท่านั้น
ไมว่าผู้ชนะนั้นจะเปนสโมสรใดๆ
พระบรมนามาภิไธย
พระที่นั่งภาณุมาศจำรูญ
วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๙"
[๔] |