[
๖ ]
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระนิพัน์นิติสิทธิ
[
๗ ]
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระภัณฑรัตน์พิทักษ์
[
๘ ]
นามเดิม สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
[
๙ ]
นามเดิม เหม ผลพันธิน
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาโอวาทวรกิจ
[
๑๐
] นามเดิม ศร ศรเกตุ
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาบริหารราชมานพ
[
๑๑
] นามเดิม ต่วน ตาตะนันทน์
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยานรฤทธิ์ราชหัช
[
๑๒
] นายสนั่น สิงหแพทย์
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระนิพันธ์นิติสิทธิ์
[
๑๓
] คำว่า มหาดเล็ก
ต่อท้ายนามนี้มีความหมายว่า
ผู้นั้นได้ถวายดอกไม้ธูปเทียน
ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว
[
๑๔
] นายผิว วรรณจินดา
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระอนุสาสน์ดรุณรัตน์
[
๑๕
] นายพ้อง รจนานนท์
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระอภิรักษ์ราชฤทธิ
[
๑๖
] นามเดิม สุ่น สุนทรเวช
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาแพทยพงศาวิสุทธาธิบดี
[
๑๗
] หม่อมหลวงทศทิศ อิศรเสนา
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาภะรตราชา
[
๑๘
] นามเดิม เชย ไชยนันทน์
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระยาไชยนันทน์นิพัทธพงษ์
[
๑๙
] นายพ้อง รจนานนท์
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
พระอภิรักษ์ราชฤทธิ
[
๒๐
] นายดาบจ้อย พลทา
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
หลวงหัดดรุณพล
[
๒๑
] นายศิลป ปริญญาตร
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
หลวงธรรมสารประสาสน์
[
๒๒
] นายยอด มีมานัส
ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น
หลวงธรรมพาประจิตร
[
๒๓
]
เป็นชั้นเรียนตามหลักสูตรแผนการศึกษาชาติ
พ.ศ.๒๔๔๕
[
๒๔
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นประถมปีที่ ๑ ปัจจุบันคือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑
[
๒๕
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นประถมปีที่ ๒ ปัจจุบันคือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
[
๒๖
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นประโยตประถมศึกษา (ประถมปีที่
๓) ปัจจุบันคือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓
[
๒๗
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นมัธยมปีที่ ๑ ปัจจุบันคือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
[
๒๘
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นมัธยมปีที่ ๒ ปัจจุบันคือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕
[
๒๙
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นชั้นประโยคมัธยมศึกษาตอนต้น (มัธยมปีที่
๓) ปัจจุบันคือ ชั้นประถมศึกษาปีที่
๑
[
๓๐
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็น ชั้นมัธยมปีที่ ๔
ปัจจุบันคือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑
[
๓๑
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็น ชั้นมัธยมปีที่ ๕ ปัจจุบันคือ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒
[
๓๒
] ต่อมาในแผนการศึกษาชาติ ๒๔๕๖
เปลี่ยนเป็นประโยคมัธยมศึกษาตอนกลาง (มัธยมปีที่
๖) ปัจจุบันคือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
[
๓๓
] เมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้กระทรวงธรรมการประกาศใช้แผนการศึกษาชาติ
พ.ศ. ๒๔๕๖ แล้ว ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๕๘
ก็ได้โปรดเกล้าฯ
ให้โรงเรียนมหาดเล็กหลวงเปิดสอนหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
หรือชั้นมัธยมปีที่ ๗ และ ๘
และเมื่อมีนักเรียนสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายใน
พ.ศ. ๒๔๕๙ แล้ว ก็ได้โปรดเกล้าฯ
ให้ประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขึ้นเป็น "จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย"
เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๙ นับ
เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย
[
๓๔
] คือ Week หรือ สัปดาห์
[
๓๕
] ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้เปลี่ยนเป็น "เทอมปวารณา"
[
๓๖
] ในสมัยก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ข้าราชการทุกคนต้องถือน้ำพระพิพัฒน์สัตนาปีละ
๒ ครั้ง คือ "ถือน้ำตรุษ"
ในช่วงวันที่
๑ - ๓ เมษายน
ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ กับ "ถือน้ำสารท"
ในเดือนกันยายนของทุกปี และโดยที่ครู
พนักงานและนักเรียนโรงเรียนมหาดเล็กหลวงต่างก็เป็นข้าราชการพลเรือนในพระราชสำนัก
จึงต้องร่วมถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามทุกครั้ง
โดยโปรดเกล้าฯ
ให้ขึ้นถือน้ำทางประตูหลังพระอุโบสถ
ส่วนข้าราชการพลเรือนทั่วไปนั้นขึ้นทางหน้าพระอุโบสถ