บรรดาผู้อ่านหนังสือพิมพ์ของท่าน
คงจะได้สังเกตเห็นแล้วว่าฟุตบอลนั้น
ในสมัยนี้มีคนพอใจชอบเล่นกันเปนอันมาก
แลไม่ต้องสงสัยเลยคงจะเปนการเล่นที่จะยั่งยืนต่อไปในกรุงเทพฯ
ข้อนี้ก็ไม่ปลาดอะไร
แต่ท่านทั้งหลายคงจะได้สังเกตเห็นแล้วว่าฟุตบอลซึ่งเปนการเล่นของชาวอังกฤษโดยแท้นั้น
พึ่งจะได้มีคนนิยมเล่นกันมากใน ๔ - ๕ ปีนี้เอง.
ตามโรงเรียนต่างๆ นั้น
ได้เล่นกันมานานแล้วจริงอยู่
แต่ในหมู่ทหารพึ่งจะได้มาแลเห็นเล่นกันหนาตาขึ้นในเร็วๆ
นี้เอง.
ผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารย่อมทราบอยู่ดีแล้วว่า
เวลาใดที่คนหนุ่มๆ
มาประชุมรวมกันอยู่ในที่แห่งเดียวกันเปนจำนวนมาก
จะเปนทหารหรือพลเรือนก็ตาม
ความคนองอันเปนธรรมดาแห่งวิสัยหนุ่มจำเปนต้องมีทางระบายออกโดยอาการอย่างใดอย่าง
๑
ในสมัยก่อนเมื่อครั้งกองทัพของเราได้เริ่มจัดระเบียบขึ้นตามแบบของกองทัพเยอรมันโดยเคร่งครัดนั้น
การเล่นใดๆ
และการกรีฑาทั้งปวงย่อมนับว่าเปนสิ่งที่ไม่สมควรแก่ทหาร
เพราะฉนั้นข้าพเจ้าเข้าใจว่าด้วยเหตุนี้เองผู้บังคับบัญชาฝ่ายทหารของเรา
ถึงจะไม่ห้ามปรามตรงๆ
จึงไม่ใคร่จะได้อุดหนุนส่งเสริมการเล่นอย่างใดๆ
ทั้งสิ้น จริงอยู่การกรีฑาได้มีมาแล้วเปนครั้งคราว
และเราก็ยังจำได้ว่าได้เคยเห็นการกรีฑาของทหารที่ท้องสนามหลวงมาแล้ว
๒ คราว
แต่การกรีฑาอย่างที่จัดมาแล้วนั้นเปนแต่การชั่วคราว
ความพยายามที่จะบำรุงการเล่นในหมู่ทหารเพื่อให้เปนทางออกกำลังกายและหย่อนใจนั้นนับว่าไม่มีเลย
เพราะฉนั้นทหารไทยเราจึงล้วนเปนผู้ที่ได้เคยต้องประพฤติตนอย่างที่ชนเยอรมันเขาเห็นว่าสมควรแก่ทหาร
แต่ซึ่งชาวเราเห็นว่าไม่สนุกอย่างยิ่ง
ในกองทัพบกอังกฤษ เขาย่อมมีการเล่นแลกรีฑาต่างๆ
ส่วนในกองทัพบกรัสเซียเขาก็อุดหนุนการเต้นรำและร้องเพลงเปนทางบรรเทิงใจในหมู่ทหาร
ฝ่ายกองทัพเยอรมันนั้น
ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าทหารมีทางบันเทิงใจโดยอาการอย่างไร
ข้าพเจ้าได้ยินแต่กิติศัพท์เขาว่าวิธีเดินก้าวช้ายกขาสูงๆ
ซึ่งฝรั่งเขาเรียกกันว่า เดินตีนห่าน
นั่นแหละเปนวิธีที่เยอรมันเขาใช้สำหรับฝึกหัดกำลังกาย
ซึ่งผู้บังคับบัญชาในกองทัพอันเปนเจ้าของแบบอย่างนั้นได้ให้อนุมัติเห็นชอบด้วย.
การเดินชนิดนี้ข้าพเจ้าเข้าใจว่าคงจะต้องใช้กำลังมากจริง
แต่จะนับว่าเปนทางบันเทิงใจนั้นยังแลไม่เห็น
แต่อย่างไรก็ดี วิธีเดินตีนห่านนี้
หาได้นำเอามาใช้เปน แบบอย่างในกองทัพไทยเราไม่
และเมื่อการเล่นอย่างใดๆ อื่นก็มิได้จัดให้มีขึ้น
ทหารของเราจึงมิได้มีการเล่นเพื่อหย่อนใจและออกกำลังกายเลย
เว้นไว้แต่การฝึกหัดดัดตนและหัดกำลังกาย
ซึ่งทหารของเราก็ถือว่าเปนการงาน มิใช่การเล่น.
ทางหย่อนใจนี้แหละเปนสิ่งที่ทหารเราต้องการ
ก็เมื่อทหารเหล่านี้ไม่มีทางที่จะระบายความคนองซึ่งมีอยู่โดยธรรมดานั้นโดยอาการอันปราศจากโทษและสนุกสนาน
คือ มีการเล่นชนิดที่ออกกำลังกายอย่างลูกผู้ชาย
อีกประการหนึ่งการดื่มเหล้าเบียร์ฤาก็มิใช่เปนทางหย่อนใจที่จะหาได้ด้วยราคาถูกเหมือนอย่างในเมืองอื่นบางเมือง
ทหารของเราตามทางราชการ
จึงนับว่าไม่มีทางสนุกสนานหย่อนใจอะไรเลย
แต่ในทางซึ่งมิใช่ราชการหรือทางส่วนตัวนั้น
เขาทั้งหลายบางทีก็ระบายความคนองของเขาโดยวิธีไม่สนุกแก่พลเรือนเลย
(เพราะพลเรือนมักต้องหัวแตก)
และไม่ขันสำหรับพลตระเวนด้วย
ส่วนนายผู้มีน่าที่บังคับบัญชา
ก็ต้องใช้ความระวังระไวอยู่เสมอ
เพื่อควบคุมคนที่อยู่ในบังคับของตน.
ต่อมาความนิยมอย่างใหม่ได้ปรากฏขึ้นทีละเล็กละน้อย.
ในโรงเรียนนายร้อยและนายเรือ
ได้เกิดเล่นฟุตบอลกันขึ้น
ฟุตบอลได้เกิดมีขึ้นด้วยอาการอย่างไรนั้น
ก็หาได้มีปรากฏในจดหมายเหตุแห่งใดไม่
และข้าพเจ้าไม่ทราบว่า
ผู้มีหน้าที่บังคับบัญชาจะได้เปนผู้ชักนำเข้ามาหรืออย่างไร
แต่การเล่นของอังกฤษชนิดนี้ย่อมมีลักษณอยู่อย่าง ๑
คือ ว่าถ้าได้เข้าไปถึงแห่งใดแล้ว
แม้ทางราชการจะแสดงกิริยาเม้ยเมินสักเท่าใดก็ดี
คงไม่สามารถจะบันดาลให้สูญหายไปได้
เพราะฉนั้นในไม่ช้าการเล่นฟุตบอลนี้จึงได้กลายมาเปนวิธีหย่อนใจแลออกกำลังกายของนักเรียนนายร้อยแลนายเรือ
ฝ่ายผู้ที่มีอำนาจบังคับบัญชานั้น ก็เออ
อวยอุดหนุนไปตามควร. เมื่อในเร็วๆ
นี้ได้มีการเล่นแข่งขันกันหลายคราวอย่างฉันมิตร์
ในระหว่างนักเรียนนายร้อยทหารบกแลเสือป่ากรมพรานหลวงรักษาพระองค์
ซึ่งอยู่ใกล้กันในบริเวณสวนดุสิต
ส่วนนักเรียนนายเรือก็ได้มาเล่นกับนักเรียนมหาดเล็กหลวงหลายคราว.
ต่อนั้นมาฟุตบอลจึงได้เข้าไปถึงโรงทหาร
ผู้ใดได้เปนผู้นำเข้าไปนั้น ข้าพเจ้าหาทราบไม่
แต่จะเปนใครก็ตาม
เขาเปนผู้สมควรที่จะได้รับความขอบใจแห่งเราทั้งหลาย
และข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าพวกทหารเองคงจะรูสึกขอบคุณเขาเปนอันมาก.
เวลานี้พวกทหารมีทางที่จะหย่อนใจด้วยความร่าเริงและไม่มีโทษ
ส่วนการเล่นนั้นเองก็เปนที่บันเทิงไม่เฉภาะแต่ส่วนผู้เล่น
ทั้งคนดูก็พลอยรู้สึกสนุกสนานด้วย.
ท้องสนามหลวงเวลานี้เปนสนามที่ฝึกหัดเล่นฟุตบอลสำหรับทหาร
ดังที่เราเห็นอยู่แทบทุกวันเวลาบ่ายๆ
เต็มไปด้วยเพื่อนทหารที่ล้อมคอยดูตะโกนบอกและล้อกันฉันเพื่อนฝูง.
สนามหญ้าในพระบรมมหาราชวังหลังวัดพระแก้ว
ก็เปนที่สำหรับเล่นของกรมทหารรักษาวัง
ส่วนทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ก็ไปเล่นที่สวนมิสกะวันใกล้โรงโขนหลวงที่สวนดุสิต
แลได้เล่นแข่งขันกับเสือป่ากรมพรานหลวงรักษาพระองค์เนืองๆ
เปนการบำรุงความสามัคคีให้ดีขึ้น
ตั้งแต่ฟุตบอลได้เข้าไปถึงในกองทัพบกแล้ว
ความรู้สึกเปนเกลอกันในหมู่ทหาร
สังเกตเห็นได้ว่าดีขึ้นเปนอันมาก
ในห้องรักษาการแลห้องขังก็มีคนน้อยลงกว่าแต่ก่อน
การออกนอกบริเวณแลการหนีก็มีน้อยลงมาก
ความรู้สึกเปนมิตรเปนเกลอในหมู่ทหารและเสือป่าก็ได้เกิดขึ้นจากการเล่นฟุตบอลเปนปฐม
ทั้งนี้ส่อให้เห็นว่า
นิสัยของทหารเราไม่ถูกกับวิธีปกครองตามแบบของเยอรมัน
(ซึ่งไม่ให้มีการเล่น).
[๑] |